admin เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล แมลงปากดูดศัตรูทำลายข้าว
สำหรับเกษตรกรที่เคยเพาะปลูกข้าวในช่วงปี พ.ศ 2548 – พ.ศ 2550 แน่นอนว่าจะต้องเคยพบเจอกับวิกฤตการบุกทำลายและแพร่ระบาดของแมลงชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล” โดยในครั้งนั้น เกษตรกรส่วนมากจำเป็นจะต้องใช้สารเคมี ที่ต้นทุนสูงมาฉีดพ่น เพื่อกำจัด แต่อยางไนก็ตาม ผลที่ออกมาก็ไม่น่าพอใจเท่าที่ควร
จนเป็นเหตุให้เกษตรกรที่ทำนาหลายๆคน ณ ช่วงเวลานั้น จำเป็นต้องหยุดการทำนาไปเลยทีเดียว
เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลจัดเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งในกลุ่มแมลงที่มีปากดูด โดยสัตว์ชนิดนี้เมื่อโตเต็มวัยจะมีขนาด ความยาวประมาณ 3 มิลลิเมตรและความกว้างประมาณ 1 มิลลิเมตร ตลอดทั่วทั้งลำตัวเป็นสีน้ำตาลอมดำ ทั้งนี้สามารถแยกย่อย ออกมาได้เป็นอีก 2 ชนิด ได้แก่
– เพลี้ยกระโดดปีกสั้น
– เพลี้ยกระโดดปีกยาว
ในด้านความแตกต่างของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลเพศผู้และเพศเมียนั้น จะสังเกตได้จากขนาดของเพศเมียจะมีลำตัวที่ใหญ่กว่าเพศผู้
เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลสามารถวางไข่บนพืชผลทางการเกษตรกรรมได้ครั้งหนึ่งประมาณ 100 ถึง 300 ฟอง ใช้เวลาในการฝักและเจริญเติบโตเพียง 2 สัปดาห์ ก่อนจะพัฒนาขึ้นมาเป็นเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลเต็มวัย และจะสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้ด้วยนะอยู่ไกลประมาณ 2-3 สัปดาห์ ทั้งนี้ในหนึ่งฤดูของการเพาะปลูกข้าวนั้น เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล สามารถขยายพันธุ์เพิ่มวงจรชีวิตได้ 2-3 ครั้งเลยทีเดียว
ในด้านของการเป็นศัตรูพืชนั้น เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลไม่ว่าจะเป็นในลักษณะตัวอ่อนหรือโตเต็มวัยจะหาอาหาร ด้วยการกัดกินและดูดน้ำเลี้ยงจากท่ออาหารของต้นข้าว ในบริเวณที่โผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำ จนทำให้เกิดโรคต่างๆขึ้น ในนาข้าว เช่น อาการใบไหม้และโรคใบหงิก ซึ่งปัญหาต่างๆเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบโดยตรง ในแง่ของการเจริญเติบโตกับต้นข้าว ทั้งในด้าน คุณภาพและปริมาณ ซึ่งสามารถสร้างความเสียหายให้กับเหล่าเกษตรกรได้เป็นจำนวนมากเลยทีเดียว
ในด้านของการกำจัดนั้น เกษตรกรสามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการหาต้นข้าวพันธุ์ที่สามารถทนทานต่อการกัดกินของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลรวมไปถึงฉีดพ่นสารเคมี นอกจากนี้ยังสามารถใช้น้ำหมักชีวภาพสูตรต่างๆที่คิดขึ้นขึ้นมาเพื่อกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลโดยตรง ได้อีกด้วย
เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล แมลงปากดูดศัตรูทำลายข้าว
