สารกำจัดวัชพืชในนาข้าว
วัชพืชศัตรูตัวสำคัญของชาวนา และเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และไม่ว่าจะทำอย่างไรวัชพืชก็สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ สร้างความเสียหายให้กับท้องนาของชาวนาเป็นอย่างมาก บางแห่งอาจจะทำให้ผลผลิตเสียหายไม่สามารถนำมาขายได้ แต่บางรายอาจจะโชคดีที่ยังนำมาจำหน่ายได้แต่ก็ได้รายได้ไม่เพียงพอ เนื่องจากผลผลิตไม่สวยงาม ทำให้ได้มีการคิดค้นสารกำจัดวัชพืชในนาข้าวขึ้นมาเพื่อช่วยบรรเทาปัญหาของชาวนา
โดยสารกำจัดวัชพืชในนาข้าวนั้นส่วนมากจะแบ่งจำแนกออกได้เป็น 3 ประเภทด้วยกันคือ
- สารกำจัดวัชพืชในนาข้าวแบบก่อนปลูก – โดยประเภทแรกมักจะใช้ก่อนที่จะทำการปลูกข้าว โดยชาวนาจะใช้สารเคมีฉีดพ่นลงไปในดิน เพื่อจัดการกับบรรดาวัชพืชที่มีรากหรือสามารถเจริญเติบโตขึ้นมาได้หลังจากทำการเพาะปลูก เมื่อพ่อยาเสร็จแล้ว ก็จะทำการพรวนดินและอาจจะฉีดพ่นซ้ำอีกรอบหนึ่งจากนั้นก็ทำการเพาะปลูกข้าวตามปกติ
- สารกำจัดวัชพืชในนาข้าวแบบก่อนโต – โดยธรรมชาติแล้ววัชพืชในนาข้าวมักจะขึ้นมาหลังจากที่ชาวนาได้ทำการเพาะปลูกข้าวไปแล้วประมาณ 10 วันด้วยกัน จากนั้นชาวนาจะทำการพ่นสารเคมีลงไปในดินโดยตรง โดยสารที่พ่นลงไปจะซึมไปตามดินและเข้าไปทำลายเมล็ดของวัชพืช ทำลายราก และยอดอ่อนใต้ดินของ แต่อย่างไรก็ตามก่อนที่จะพ่นนั้นต้องทำให้ดินอยู่ในความชื้นที่เหมาะสม และต้องทำการเตรียมดินที่สม่ำเสมอด้วยเช่นเดียวกัน
- สารกำจัดวัชพืชในนาข้าวแบบหลังงอก – โดยสารเคมีที่ชาวนาใช้ในรูปแบบสุดท้ายจะมีชื่อเรียกติดปากกันว่า “ยาฆ่าหญ้า” เนื่องจากจะใช้พ่นหลังจากที่บรรดาวัชพืชตัวร้ายทั้งหลายเติบโตขึ้นมาแล้ว โดยจะมีระยะเวลาประมาณ 10 วันขึ้นไปหรือมากกว่านั้น วิธีการใช้สารเคมีประเภทนี้ส่วนมากจะพ่นไปที่วัชพืชโดยตรงและให้โดนมากที่สุด จากนั้นทิ้งไว้ซักระยะวัชพืชจะค่อยๆ ตายไปเอง
อย่างไรก็ตามการที่จะใช้สารเคมีกำจัดวัชพืชออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มที่ชาวนาจะต้องทำการเตรียมหน้าดินให้มีความเหมาะสม ให้มีความชื้นที่เพียงพอ และหลังจากที่ทำการพ่นยากำจัดวัชพืชไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้นหากชาวนาสามารถปล่อยน้ำให้เข้าไปได้อย่างทั่วถึงก็จะยิ่งช่วยให้สารเคมีได้ออกฤทธิ์อย่างเต็มที่ด้วยกันโดยส่วนมากจะใช้เวลา 3 วันหลังจากพ่อสารเคมีไปแล้ว รวมถึงการอ่านฉลากของสารเคมีที่ใช้อย่างละเอียด จะได้ใช้ถูกกับปัญหาที่เกิดขึ้น และทุกครั้งที่ทำการพ่นจะต้องแต่งกายปิดให้มิดชิดระวังอย่าให้สารเคมีเข้าตาหรือสัมผัสกับบริเวณที่เป็นแผลอย่างเด็ดขาด และหลังจากพ่นแล้วต้องชำระล้างร่างกายให้สะอาดทุกครั้ง