สายพันธุ์พลูด่าง ที่นิยมปลูกกันมีอะไรบ้าง
ลักษณะของพลูด่างเป็นไม้เลื้อยที่นิยมนำมาปลูกทั่วโลก มีใบ ข้อปล้อง และลำต้นสีเขียว จะมีด่างแทรกออกมาสีเหลือง ในแต่ละข้อปล้องสามารถออกรากได้ เมื่อในส่วนใดแตะพื้นในส่วนนั้นจะมีลาออกมาเพื่อช่วยหาอาหาร เป็นไม้ประดับภายในอาคาร มีความสามารถในการกักเก็บความชื้นได้ดี สามารถฟอกอากาศได้โดยการคายก๊าซออกซิเจนเพื่อสร้างความสดชื่นอีกด้วย
สายพันธุ์พลูด่างที่นิยมปลูกในไทย พลูด่างยักษ์ใบอ่อนมีรูปไข่ใบที่โตเต็มที่จะมีรูปหัวใจด่างสีเหลืองหรือเขียวสม่ำเสมอบางครั้งอาจมีลายดาวสีขาวมีขนาดใหญ่กว่าพันธุ์อื่น ๆ และลักษณะเด่นของพลูด่างยักษ์คือ ลำต้นขนาดใหญ่กว่าทุกสายพันธุ์ผิวใบเป็นคลื่นลำต้นสูงได้ถึง 15 เมตร
พลูด่างราชินีหินอ่อนใบมีรูปหัวใจมีลายดาวสีเขียวขาวคล้ายหินอ่อนลำ แต่สูงน้อยกว่าพันธุ์พลูด่างชนิดอื่นโตเต็มที่ได้มากกว่า 5 เมตร พลูด่างราชินีหินอ่อนเป็นที่นิยมปลูกเป็นไม้ประดับในแจกันหรือกระถาง เหมาะแก่การวางตั้งโต๊ะหน้าคอม หรือวางในสำนักงาน
พลูด่างด่างราชินีสีทองเป็นพรรณไม้ที่เล็กที่สุดลำต้นสูงได้มากกว่า 3 เมตรใบมีสีเขียวอ่อนสีเขียวแกมเหลือง ลักษณะเด่นของพลูด่างราชินีสีทองคือ ใบที่ออกเป็นสีเหลืองผสมเขียวอ่อน ๆ มองดูเป็นสีทอง เป็นที่นิยมปลูกเป็นไม้ประดับในแจกัน และในกระถางสามารถวางบนโต๊ะทำงานได้เหมือนกัน
ในการเพาะปลูกพลูด่างใช้ดินปลูก 1 ส่วนปุ๋ยคอกหนึ่งส่วนกลางมะพร้าวสับ 1 ส่วนมาผสมกัน ดินควรอุ้มน้ำแต่ไม่ควรแฉะเกินไป ในการทำเสาให้พลูด่างเรื้อยไม้ ดังรูปภาพที่ 4 จะช่วยให้พลูด่างมีการขยายใบหรือแตกหน่อมากยิ่งขึ้น วิธีการทำโดยการนำกาบมะพร้าว ไม้ลำตัดขนาดที่พอดี จากนั้นนำกาบมะพร้าวมาพันไว้ที่ไม้ลำโยการใช้สายรัดมัด พยายามมัดให้แน่นหนา เพื่อให้กาบมะพร้าวอุ้มน้ำได้ดี ควรวางพลูด่างไว้ที่แดดร่มรำไร หรือภายในอาคาร พลูด่างเป็นไม้ฟอกอากาศที่มีความนิยมในการปลูกอย่างมาก ช่วยให้มีความสวยงามและยังช่วยคายก๊าซออกซิเจนเพื่อสร้างความสดชื่นเป็นการฟอกอากาศได้อีกด้วย
พลูด่างเป็นไม้ที่มีการเจริญเติบโตได้ง่าย ดูแลง่าย สามารถเด็ดยอดออกเพื่อให้มีการแตกยอดใหม่ออกมาได้ การดูแลรดน้ำไม่ต้องชุ่มน้ำหรือรดไปที่เสาค้ำต้นให้ชุ่ม พยายามอย่าให้น้ำแฉะจนเกินไป อาจทำให้รากเน่า และพลุด่างตายได้นั้นเอง