สับปะรด ผลไม้ทางเลือกน่าปลูก
ไทยเป็นผู้ส่งออกสับปะรดเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก สับปะรด จึงเป็นไม้ผลเศรษฐกิจที่สำคัญอีกชนิดหนึ่ง โดยส่วนใหญ่ประเทศไทย จะส่งออกในรูปแบบสับปะรดกระป๋อง ในอัตรา 80 % และน้ำสับปะรดในอัตรา 20 % ในขณะนี้ประเทศไทย มีโรงงานสับปะรดกว่า 75 โรง ซึ่งในแต่ละปี สามารถผลิตสับปะรดส่งออกได้มากกว่า 700,000 ตันอีกด้วย สับปะรดจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่กำลังมองหาไม้ผลเศรษฐกิจเพื่อสร้างรายได้
การขยายพันธุ์สับปะรด สามารถขยายพันธุ์ด้วยส่วนต่าง ๆ ดังนี้
- หน่อดิน เป็นส่วนที่อยู่ใต้ต้น รูปทรงเล็กเรียว มีจำนวนไม่เยอะ ใบยาวกว่าหน่อข้าง จะเริ่มแทงขึ้นมาจากพื้นดิน หลังจากที่สับปะรดออกดอก
- หน่อข้าง เป็นส่วนที่เกิดจากตาของสับปะรด ที่อยู่บนลำต้น จะมีน้ำหนักตั้งแต่ ครึ่งกิโลไปจนถึง 1 กิโลกรัม นิยมใช้ขยายพันธุ์ สามารถกำเนิดผลได้เมื่ออายุ 14-18 เดือน
- ตะเกียง เกิดจากส่วนตาก้านผลของสับปะรด มักอยู่ใต้บริเวณโคนผล โดยปกติจะมีน้ำหนักตั้งแต่ 3 กก. ไปจนถึง 5 กก. ให้ผลเมื่อมีอายุ 18-20 เดือน
- จุก เป็นส่วนที่อยู่ด้านบนสุดของผลสับปะรด เป็นส่วนที่ขยายพันธุ์ง่าย ปกติจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 0.075-0.2 กก. ให้ผลเมื่อโตครบ 22-24 เดือน
วิธีการปลูกสับปะรด
- การปลูกแบบแถวเดียว
ปลูกในพื้นที่ 1 ไร่โดยเว้นระยะห่าง 40 ซม. ต่อต้น เว้น 100 -125 ซม. ระหว่างแถว จะปลูกได้ประมาณ 2,500-3,500 ต้น เป็นวิธีปลูกที่เหมาะแก่การจำหน่ายผลสด เนื่องจากว่าช่วยให้ได้ผลใหญ่ มีหน่อไว้สำหรับขยายพันธุ์เยอะ ราคางาม แต่ต้องเปลืองพื้นที่เยอะและได้ผลผลิตต่อไร่ต่ำ
- การปลูกแบบแถวคู่
ในการปลูกจะต้องให้แต่ละต้นห่างกันประมาณ 30 ซม. ความห่างของแถวประมาณ 50 ซม. ควรปลูกแถวละ 1 เมตร โดยการสลับซิกแซกฟันปลา วิธีนี้สามารถปลูกได้มากถึง 10,000 ต้น และส่วนใหญ่แล้วมักจะนิยมปลูกเพื่อส่งขายให้โรงงานสับปะรดกระป๋อง เพราะให้ผลผลิตเล็ก แต่ได้ผลผลิตต่อไร่เยอะ ประหยัดเวลาดูแลสับปะรดอีกด้วย
ทั้งนี้ควรปลูกสับปะรดใหม่ ในทุก ๆ 3 ปี และควรจะย้ายที่ปลูก และสลับปลูกพืชอย่างอื่น เช่น พืชตระกูลถั่ว เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดโรคของสับปะรด ที่สำคัญควรเริ่มปลูกในช่วงฤดูฝน เพื่อให้สับปะรดได้รับน้ำได้เพียงพอ
การดูแลสับปะรด
- แสงแดด แสงแดที่เหมาะสมแก่การปลูกสับปะรดควรอยู่ที่อุณหภูมิ 24-30 องศา
- ให้น้ำสับปะรดอย่างน้อย ๆ 1 ลิตรต่อวัน เพื่อให้สับปะรดได้รับน้ำอย่างพียงพอ ตามความต้องการ
- ในทุก ๆ เดือนจะต้องบำรุงด้วยปุ๋ยฟอสฟอรัส โพรแทสเซียม และไนโตรเจนอย่างสม่ำเสมอ
- กำจัด ไร เชื้อรา และอาการตกสะเก็ด ด้วยการล้างกาบใบด้วยสบู่อ่อน ๆ
เห็นได้ว่าสับปะรดเป็นผลไม้ที่ปลูกง่ายเป็นอย่างมาก รวมไปถึงมีวิธีขยายพันธุ์และการดูแลไม่ยุ่งยาก สามารถสร้างรายได้ให้แก่ชาวสวนได้เป็นกอบเป็นกำ และถือเป็นไม้ผลเศรษฐกิจที่สำคัญต่อประเทศของเราอีกด้วย
สับปะรด ผลไม้ทางเลือกน่าปลูก