มหาหิงคุ์ ไม้ล้มลุกแต่สรรพคุณยืนหนึ่ง
ถือว่าเป็นชื่อที่คุ้นหูของคนไทยมานาน โดยมักนิยมใช้ในเด็กทารกหรือเด็กเล็ก ดังนั้นจึงมักจะมีติดบ้านไว้ตลอด ส่วนสรรพคุณนั้นถือว่าเป็นพืชที่มีความหลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อดีในส่วนของช่องท้อง อีกทั้งบางครั้งยังสามารถนำมาใช้ประกอบอาหารได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นสมุนไพรที่ครบเครื่องจริง ๆ ซึ่งปัจจุบันการใช้งานในทางการรักษาถือว่าทำได้ง่ายมากขึ้น เพราะมีผลิตภัณฑ์สกัดออกมาเป็นยาน้ำ ซึ่งทำให้ง่ายต่อการใช้งาน และหาซื้อได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
ลักษณะโดยทั่วไปของ มหาหิงคุ์
มหาหิงส์ จริง ๆ แล้วไม่ได้ทำมาจากลำต้นโดยตรง แต่เป็นชันน้ำมันหรือยางในส่วนของหัวรากใต้ดิน รวมถึงลำต้น มีสีเหลืองอมน้ำตาลและมีกลิ่นฉุนพอสมควร โดยพืชชนิดนี้จัดอยู่ในพืชตระกูล FERULA ซึ่งเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก แต่มีความสูงได้ถึง 2 เมตร ลำต้นจะตั้งตรง ผิวของลำต้นจะมีรอยแตกเป็นร่อง ๆ ส่วนใบจะเป็นแบบขนนกรูปกลมหรือรียาว สีของใบจะเป็นสีเขียวอมเทา ขอบใบเลื่อย นอกจากนั้นมีความน่าสนใจและจุดเด่นคือ ดอกจะมีลักษณะคล้ายซี่ร่ม แถมยังแยกดอกตัวเมียและดอกตัวผู้จากกันออกชัดเจนด้วยสี ซึ่งทางด้านดอกตัวเมียจะมีสีเหลือง ส่วนดอกตัวผู้จะมีดอกสีขาว
สรรพคุณของ มหาหิงคุ์
- สำหรับยางจากร่างเริ่มต้นที่นำมาใช้ทำยา มีรสขม เผ็ดร้อน กลิ่นฉุน ซึ่งมีผลช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระเพาะ ลำไส้ ตับ และม้าม
- ช่วยขับเสมหะ และขับลม
- ช่วยแก้อาการต่าง ๆ ในช่องท้องอาทิ แก้จุกเสียดแน่นท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ รวมถึงอาหารอาการไม่ย่อย รวมถึงแก้ปัญหาอาการท้องเสีย บิด ปวดท้องต่าง ๆ และแก้บิด
- ใช้สำหรับเป็นยาฆ่าพยาธิ โดยมีผลต่อการใช้ฆ่าพยาธิตัวกลมและพยาธิใบไม้ในตับ
- สามารถใช้เป็นยาทาภายนอกสำหรับแก้ปวด แก้อาการบวม จากการหกล้มหรืออาการบาดเจ็บอื่น ๆ รวมถึงแก้แมลงสัตว์กัดต่อย
- ใช้สำหรับคนที่หลับยาก หรือมีอาการท้องผูก
- นอกจากนั้นยังช่วยแก้ปัญหาการเกร็งของช่องท้องได้อีกด้วย
- ช่วยขับประจำเดือนของสตรี
- แก้ปัญหาอาการชักกระตุก
- รักษาอาการโรคผิวหนัง อาทิเช่น กลากและเกลื้อน
- ช่วยบรรเทาอาการหวัด และอาการไอได้
อย่างไรก็ตามแม้ว่าพืชสมุนไพรชนิดนี้มีประโยชน์มากมาย แต่ใช่ว่าจะใช้เยอะแล้วจะช่วยให้อาการต่าง ๆ หายได้ไวมากขึ้น เพราะมีอันตรายต่อคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับม้ามและกระเพาะหย่อน รวมถึงสตรีมีครรภ์ อีกทั้งสมุนไพรชนิดนี้นิยมใช้ภายนอกเป็นหลัก ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้รับประทาน