ผักสลัด เพาะเองได้ง่ายๆไม่ต้องซื้อกิน
หากจะถามกันถึงผักสักชนิดที่เป็นที่ยอมรับทั่วไปกับกลุ่มผู้คนจากทั่วโลกนั้น คำตอบก็คือกลุ่มผักสลัดนั่นเอง ผักชนิดนี้เป็นผักเอนกประสงค์ สามารถปลูกกินเองก็ได้หรือจะปลูกเพื่อขายก็นับว่ามีช่องทางทางการตลาดและผลตอบรับจากกลุ่มผู้บริโภคในระดับที่ดี สามารถปลูกได้แทบจะทุกพื้นที่ ทุกภูมิภาคทั่วทั้งประเทศไทย เป็นผักที่เลี้ยงง่ายโตไว เก็บผลผลิตได้เร็ว ที่สำคัญวิธีการเพาะมีหลากหลายให้ได้เลือกใช้ตามความต้องหการ อีกทั้งการจะเพาะพันธุ์กลุ่มผัดชนิดนี้ไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่มากมาย แม้แต่วิถีชีวิตคนกรุงเองก็สามารถใช้มุมเล็กเล็กๆจากระเบียงห้องพัก เนรมิตให้เป็นพื้นที่สำหรับปลูกพืชผักสวนครัวชนิดนี้ได้ โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อกินในราคาที่ค่อนข้างสูงทั้งยังต้องเสี่ยงจะเจอสารปนเปื้อนติดมาด้วย การปลูกผักเพื่อกินเองนั้น นอกจากจะได้ผักที่สะอาดปลอดภัยแล้วยังถือว่าช่วยประหยัดใช้จ่ายในบางมื้ออาหารให้คุณได้ อีกทางหนึ่งด้วย
ปัจจุบันผักกลุ่มประเภทนี้สามารถปลูกได้ด้วยวิธีเพาะเมล็ดผักสลัดนั้นเอง โดยมีอยู่ด้วยกันหลากหลายชนิดที่ผู้คนนำใช้ประกอบกันเพื่อทำสลัดผัก และถึงแม้จะมีหลายชนิดรวมถึงชื่อที่แตกต่างกันออกไป แต่อย่างไรก็ตามคนไทยในทุกวันนี้นิยมเรียกผักกลุ่มนี้กันจนติดปาก ว่าผักสลัดนั่นเอง โดยผักสลัดชนิดต่างๆที่นิยมรับประทานกันอยู่ในยุคปัจจุบันนั้นได้แก่ กรีนโอ๊ค, เรดโอ๊ค, บัตเตอร์ เฮด, เรด คอรัล, คอส, ผักกาดแก้ว, ผักกาดหอม, ร็อคเก็ต เป็นต้น
สำหรับวิธีเพาะเมล็ดผักสลัดนั้น มีขั้นตอนกระบวนการที่ไม่ยากหรือซับซ้อน สามารถยึดถือแนวทางปฏิบัติขั้นพื้นฐานได้ตามข้อมูลเหล่านี้
การเตรียมดิน เพาะผักสลัด
สามารถผสมดินเพาะเตรียมเพาะผักสลัดได้ตามสูตรเฉพาะตัวของแต่ละคน ทั้งนี้หากไม่มีความรู้มาก่อนให้ทำความเข้าใจ ว่าดินที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของผักกลุ่มนี้นั้นได้แก่ดินที่มีลักษณะร่วนซุยรวมถึงมีสารอาหารอุดมสมบูรณ์ ทั้งนี้ผู้เพาะพันธุ์อาจจะผสมขุยมะพร้าว ขี้เถ้าแกลบ ปุ๋ยคอก รวมไปถึงแร่ธาตุต่างๆ ลงไปในดินก่อนที่จะเริ่มการเพาะปลูก ในอัตราส่วน 1:1 เพื่อให้ผักเจริญเติบโต
อยางไรก็ตามปัจจุบันกลุ่มผักสลัดนั่นสามารถปลูกได้อีกหลายหลายวิธีโดยไม่ต้องใช้ดินเช่น ปลูกบนฟองน้ำ บนกระดาษทิชชู, ปลูกบนน้ำหรือแม้แต่เพาะปลูกลงในขวดก็สามารถทำได้เช่นกัน
ขั้นตอนและวิธีเพาะเมล็ดผักสลัด
- เตรียมเมล็ดผัก โดยปัจจุบันเมล็ดผักสลัดนั้นสามารถหาซื้อได้จากร้านขายสินค้าทั่วไป
- เมื่อได้เมล็ดมาแล้วควรนำไปแช่น้ำประมาณ 8 -12 ชั่วโมง จากนั้นคัดเมล็ดที่ลอยน้ำทิ้ง และนำเมล็ดที่จมไปเตรียมทำการเพาะพันธุ์ขั้นต่อไป
- นำเมล็ดที่ได้ มาวางบนผ้าขนหนูหรือกระดาษทิชชูที่ชุ่มน้ำ ทิ้งไว้อีกอย่างน้อย 8 ชั่วโมง เมื่อครบแล้วจะสังเกตุเห็นว่าเมล็ดเริ่มมีราก
- นำเมล็ดที่เริ่มงอกใส่ภาชนะสำหรับเพาะปลูกต้นกล้าทั้งแบบใช้ดินและแบบอื่นๆ ตามที่ผู้เพาะปลูกต้องการ
- ในกรณีปลูกกับภาชนะใส่ดินหรือปลูกบนพื้นที่ดินกานเกษตรโดยตรง ควรขุดหลุมประมาณ 3 – 4 นิ้วก่อนใส่เมล็ดพันธุ์ลงไป แล้วกลบด้วยดินโดยไม่ต้องปิดหน้าหลุมให้หนามาก
- หมั่นรดน้ำใส่ปุ๋ยดูแล ให้ดี เมื่อครบอายุหรือโตจนพอดี ก็สามารถเก็บออกขายหรือนำมารับประทานได้ ทั้งนี้ระยะเวลาการเก็บของผักแต่ละชนิดแตกต่างกันโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 15 – 45 วัน ขึ้นอยู่ประเภทของผักและสายพันธุ์
ในส่วนของการดูแลนั้น ควรมั่นรดน้ำทั้งเช้าและเย็น อีกทั้งผักชนิดนี้ไม่ทนแดดมาก กังนั้นควรปลูกในที่ร่มและมีแดดส่งถึงพอประมาณเท่านั้น นอกจากนี้หากทำในปริมาณมากเพื่อการค้าขาย อาจจะมีการใส่ปุ๋ยอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง และสำหรับการเก็บผลผลิตนั้นไม่ควรปล่อยให้อายุผักเกินไปจาก 45 วัน เพราะผักจะเริ่มแก่และไม่อร่อย
อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่าผักชนิดนี้ มีขั้นตอนสำหรับการปลูกหรือเพาะพันธุ์ไม่ยากจนเกินไป อีกทั้งยังง่ายต่อการดูแล และเก็บผลผลิตได้เร็ว ผู้คนส่วนมากในยุคปัจจุบันสามารถเพาะพันธุ์เมล็ดกลุ่มผักชนิดนี้ตามวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป ทั้งเพื่อเป็นอาชีพหลักหรือเพื่อเป็นอาชีพเสริม รวมไปถึงการปลูกเพื่อใช้รับประทานเองภายในครัวเรือน ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ในส่วนของวิธีการปลูกนั้น ก็สามารถทำได้อย่างหลากหลายรูปแบบตามความต้องการหรือความเหมาะสมรวมถึงปรับให้เข้ากับวิถีชีวิตของแต่ละคนเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีรวมไปถึงความสะดวกสบายของผู้ที่เพาะปลูกกลุ่มพืชผักสลัดเหล่านี้นั่นเอง