ผักชีลาว ผักทานง่าย ยิ่งทานยิ่งดีต่อสุขภาพ
ผักชีลาว (Dill) เรียกได้ว่าเป็นผักสมุนไพรที่นิยมปลูกกันมากในแถบภาคเหนือและภาคอีสานของไทย มีลักษณะเด่นคือ มีกลิ่นหอมฉุน และสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนูด้วยกัน โดยมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Anethum graveolens L. จัดอยู่ในวงศ์ผักชี (APIACEAE หรือ UMBELLIFERAE)
และมีชื่อเรียกตามท้องถิ่นของไทยแตกต่างกัน เช่น ผักชีเมือง ผักชีเทียน ผักชีตั๊กแตน ผักชี เทียนข้าวเปลือก และเทียนตาตั๊กแตน เป็นต้น ดังนั้นในบทความนี้เราจะพาทุกคนมาดูประโยชน์และสรรพคุณของ ผักชีลาว กันว่ามีอะไรบ้าง และสามารถนำมาทำอาหารในเมนูอะไรได้บ้าง ตามมาอ่านกันได้เลย
ลักษณะทั่วไปของผักชีลาว
ผักชีลาว เป็นไม้ล้มลุกที่อยู่ในตระกูลกับผักชีต้นมีสีเขียวเล็ก ใบมีสีเขียวออกใบเรียงรายสลับกันทั่วลำต้น และออกดอกเป็นช่อขนาดเล็ก มีสีเหลือง ก้านช่อดอกมีลักษณะคล้ายกับซี่ร่ม และเมื่อผลแก่จะเป็นรูปไข่แบน มีสีน้ำตาลอมเหลือง
สำหรับวิธีการขยายพันธุ์นั้นนิยมใช้การเพาะเมล็ด ใช้เวลาประมาณ 60 วันในการปลูกก็สามารถเก็บมารับประทานได้แล้ว ส่วนดินที่เหมาะสำหรับการปลูก ผักชีลาว นั้น ควรเลือกดินร่วนจะทำให้ผักเจริญเติบโตได้อย่างงอกงาม ชอบแดดค่อยข้างจัด ควรปลูกในช่วงปลายฤดูฝน และควรรดน้ำเป็นประจำทุกวัน วันละ 1-2 ครั้งต่อวัน
ประโยชน์และสรรพคุณผักชีลาว
สำหรับ ผักชีลาว มีสรรพคุณช่วยบำรุงและรักษาสายตา มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอวัยได้ ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคให้กับร่างกาย ช่วยลดความดันโลหิตสูง ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ช่วยชะลอการขยายตัวของเซลล์มะเร็งชนิดต่างๆ ช่วยบำรุงปอด ช่วยกระตุ้นการหายใจให้ทำงานได้อย่างปกติ ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ช่วยแก้อาการไอและแก้อาการสะอึก ช่วยเพิ่มปริมาณของน้ำนมให้หญิงที่ต้องให้นมบุตร ช่วยแก้อาการปวดท้อง ท้องผูก ท้องอืดท้องเฟ้อ แก้อาการปัสสาวะขัด ช่วยส่งเสริมการทำงานของกระเพาะอาหารให้แข็งแรง ช่วยแก้อาการเหน็บชา และช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน เป็นลมได้
นอกจากนี้ยังสามารถนำทำอาหารได้หลากหลาย เช่น ทำแกงอ่อม แกงหน่อไม้ ห่อหมก ผัดไข่ หรือจะใช้ทานคู่กับน้ำพริก ลาบ ก็ได้เช่นกัน และในผลหรือเมล็ดยังมีน้ำมันหอมระเหยที่สามารถนำมาทำเป็นสบู่ หรือโลชั่นบำรุงผิวพรรณได้ ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่า ผักชีลาว ถือได้ว่าเป็นผักสวนครัวที่ไม่ได้นิยมนำมาเป็นส่วนประกอบอาหารได้อย่างเดียว แต่ยังสามารถนำมาเป็นยาช่วยบรรเทาหรือรักษาโรคต่าง ๆ ได้อีกด้วยเหมาะสำหรับใครที่เพิ่มเริ่มหัดทานผัก เนื่องจากมีรสชาติที่ทานง่าย ไม่เหม็นเขียว และยังเหมาะสำหรับคนที่เป็นโรคเบาหวานอีกด้วย เพราะสามารถทานได้เป็นประจำทุกวัน