ปลูกหญ้าทางเลือกเลี้ยงสัตว์เพื่อลดต้นทุนเกษตรกร

ปลูกหญ้าทางเลือกเลี้ยงสัตว์เพื่อลดต้นทุนเกษตรกร

ปลูกหญ้าทางเลือกเลี้ยงสัตว์เพื่อลดต้นทุนเกษตรกร

 

ในปัจจุบันปัญหาที่เกษตรกรกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์ส่วนใหญ่มักพบเจอคือต้นทุนในการเลี้ยงสัตว์ค่อนข้างสูง ส่งผลให้เมื่อถึงเวลาขายผลผลิตแล้วประสบปัญหาการขาดทุนหรือมีกำไรไม่มาก โดยระยะเวลาระหว่างที่เริ่มเลี้ยงไปจนถึงช่วงที่สัตว์จะโตเต็มวัยก่อนสามารถส่งออกขายได้นั้น เกษตรกรต้องแบกรับต้นทุนการดูแลในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็น อาหารหลัก อารหารเสริม ตลอดจนต้นทุนในการดูแลรักษาเมื่อสัตว์เจ็บป่วย หากเกษตรไม่มีความรู้ความเข้าใจในการเลี้ยงที่มากพอ ก็อาจจะส่งผลให้เมื่อขายออกแล้วต้องพบเจอกับการขาดทุนได้

อาหารสัตว์ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญสำหรับกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยง โดยทั่วไปอาหารสัตว์สำเร็จรูปที่มีขายอยู่ในท้องตลาดถือว่ามีราคาค่อนข้างสูง อีกทั้งสัตว์ยังต้องกินอาหารทุกวันในปริมาณที่มากขึ้นตามช่วงวัย หากจะหวังพึ่งเพียงแค่การซื้อสำเร็จเพียงอย่างเดียวก็มักจะส่งผลให้ขาดทุนได้ ทั้งนี้ในปัจจุบันเริ่มมีเกษตรกรพยายามลดต้นทุน จากที่แต่เดิมให้เพียงอาหารสำเร็จรูปและใช้พืชที่หาได้เป็นส่วนเสริม ก็เริ่มเปลี่ยนมาใช้อาหารที่มีอยู่ตามธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหลักหรือปล่อยให้สัตว์หากินเองบ้างตามพื้นที่ธรรมชาติในบางช่วงเวลา ซึ่งวิธีการเหล่านี้ก็เริ่มที่จะช่วยลดปัญหาในด้านต้นทุนไปได้มากทีเดียว แต่ทั้งนี้หากจะหวังพึ่งอาหารจากพืชที่มีอยู่ในธรรมชาติเพียงอย่างเดียว

ก็อาจจะพบปัญหาพืชบางชนิดขาดแคลนได้ในบางฤดู ส่งผลให้ทุกวันนี้มีการผลักดันให้เกษตรกรเริ่มปลูกหญ้าหลากหลายชนิดที่สามารถใช้เป็นอาหารสัตว์ได้ เพื่อเป็นการใช้พื้นที่ว่างที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ อีกทั้งมีอาหารสำรองไว้สำหรับสัตว์เลี้ยงได้ตลอดทั้งปี โดยปัจจุบันมีหญ้าที่ถูกพัฒนาสายพันธ์เพื่อมาเป็นอาหารสัตว์อย่างมากมาย มีการเริ่มส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกให้ตรงกับความต้องการของสัตว์ตามแต่ละชนิดที่เลี้ยง อีกทั้งในแต่ละลักษณะพื้นดินหรือภูมิอากาศที่แตกต่างกัน เกษตรกรก็ต้องเลือกปลูกตามความเหมาะสมเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดี

ทุกวันนี้เกษตรกรที่มีพื้นที่ว่างตลอดจนใช้พื้นที่เกษตรกรรมเดิมในช่วงฤดูที่ไม่สามารถเพาะปลูกได้ หันมาเริ่มปลูกหญ้าเลือกเพื่อเป็นอาหารให้กับสัตว์ ทั้งปลูกเพื่อให้สัตว์ที่เลี้ยงไว้เองตลอดจนเหลือส่งขายให้กับฟาร์มสัตว์อื่น ๆในละแวกใกล้เคียง นอกจากไม่ต้องคอยนำสัตว์ไปหากินไกล ๆ จากบ้านแล้ว ยังช่วยประหยัดต้นทุนค่าอาหารอีกทั้งยังมีรายได้เสริมจากการตัดหญ้าส่งขายเพื่อเป็นอาหารของสัตว์ให้กับฟาร์มละแวกใกล้เคียงอีกด้วย โดยหญ้าสายพันธุ์ที่มีอยู่และถูกส่งเสริมให้ปลูกตอนนี้ ถูกพัฒนาสายพันธุ์มาแล้วเป็นอย่างดี เหมาะกับสัตว์หลากหลายชนิด อีกทั้งยังมีสารอาหารที่สัตว์ต้องการมากกว่าหญ้าทั่วไปในธรรมชาติอีกด้วย

ปัจจุบันหญ้าสายพันธุ์ทางเลือกที่นิยมปลูกสำหรับเลี้ยงสัตว์ในไทยมีอยู่หลากหลายสายพันธ์ ตามแต่ละพื้นที่ ประเภทของสัตว์ที่เลี้ยงและสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันออกไป ในครั้งนี้จะพาไปพบกับหญ้าทางเลือก 3 สายพันธุ์ที่เกษตรกรไทยนิยมปลูกสำหรับใช้เลี้ยงสัตว์และได้ผลลัพธ์ที่ดีจากการทดลองนำร่องไปก่อนหน้านี้

  1. หญ้าเนเปียร์ เป็นหญ้าที่นิยมปลูกมาที่สุดในประเทศไทย เพราะนอกจากจะสามารถเป็นอาหารให้แก่สัตว์ได้หลากหลายชนิดแล้ว ต้นแก่ยังสามารถส่งขายให้กับโรงผลิตพลังงานทางเลือกเพื่อทำเป็นแก๊สหุงต้มได้ หญ้าเนเปียถูกพัฒนามาจากการผสมของหญ้าเนเปียยักษ์กับหญ้าไข่มุก สายพันธุ์ที่นิยมปลูกมาที่สุดตอนนี้ คือสายพันธ์ ปากช่อง1 เนื่องจากถูกพัฒนาสายพันธุ์จนได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดกับสภาพอากาศของประเทศไทยแล้ว หญ้าสายพันธุ์นี้มีข้อดีมากมาย ปลูกง่าย โตไว ให้ผลผลิตเป็นจำนวนมาก เฉลี่ยประมาณ 10 – 60 ตัน ต่อไร่ใน 1 ปี อีกทั้งยังมีสารอาหารที่สูงเหมาะสำหรับนำไปให้สัตว์กินเป็นอาหารทั้งแบบตัดสดหรือสับผสมกับอาหารชนิดอื่น ๆ ก็ได้เช่นกัน

 นอกจากนี้หญ้าสายพันธุ์นี้ยังมีอายุที่ยาวนานเกษตรกรปลูกเพียงหนึ่งครั้งสามาถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้อีกสามถึงห้าปี และตลอดปีสามารถเก็บเกี่ยวได้ 5 – 6 ครั้ง ขยายพันธุ์หรือเริ่มปลูกได้โดยใช้ ต้นพันธุ์ เนื่องจาก หญ้าเนเปียร์ชนิดนี้ไม่สามารถเพาะพันธุ์ด้วยเมล็ดได้ ในส่วนของการดูแล หญ้าเนเปียจำเป็นต้องมีน้ำตลอดทั้งปีจึงจะเจริญเติบโตได้ดี เหมาะปลูกบนพื้นที่ดอน ระหว่างรอเก็บเกี่ยวควรดูแลกำจัดวัชพืชเป็นระยะ นอกจากนี้หญ้าสายพันธุ์นี้ตอบสนองได้ดีกับทั้งปุ๋ยและน้ำ หากได้ในปริมาณที่เพียงพอหญ้าเนเปียร์จะเจริญเติบโตพร้อมทั้งให้ผลผลิตในปริมาณที่สูงมาก หน้าเนเปียร์มักนำไปเลี้ยงสัตว์หลายชนิด เช่น วัวนม วัวขุน หมูขุน แพะ ไก่ เป็นต้น

ปลูกหญ้าทางเลือกเลี้ยงสัตว์เพื่อลดต้นทุนเกษตรกร

  1. หญ้ารูซี่ หญ้าสายพันธุ์นี้ถูกนำเข้ามาในประเทศเพื่อใช้ในการเกษตรกรรม ทั้งเป็นพืชคลุมดินตลอดจนเป็นอาหารให้สัตว์ หญ้ารูซี่มีข้อดีคือโตไว ให้ผลผลิตต่อไรในปริมาณมาก ลำต้นอ่อนนุ่มเหมาะที่จะปลูกในบริเวณลานกว้างแล้วปล่อยสัตว์เดินแทะเล็มได้เลย เนื่องจากลำต้นไม่แข็งหรือขนาดใหญ่มากเกินไปสัตว์จึงสามารถกินได้เลยโดยไม่ต้องผ่านการสับหรือตัดเป็นชิ้นเล็กๆก่อน

 อีกทั้งยังมีสารอาหาร โปรตีนสูงกว่าหญ้าที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ นอกจากนี้หญ้าชนิดนี้ยังมีความแข็งแรงทนทานต่อการเหยียบทั้งจากสัตว์และมนุษย์ อีกหนึ่งข้อดีที่สำคัญของหญ้าชนิดนี้คือเนื่องจากแต่เดิมเป็นหญ้าสายพันธุ์พื้นเมืองทางฝั่งทวีปแอฟริกาจึงทำให้สามารถทนร้อนได้ดี เจริญเติบโตในพื้นที่แบบดอน หญ้ารูซี่สามารถให้ผลผลิตได้มาเฉลี่ยประมาน 1.5 – 3 ตันต่อ 1 ไร่เลยทีเดียว ทั้งนี้สามารถขยายพันธุ์ได้โดยการใช้เมล็ดหรือต้นอ่อนลงปลูกในดินที่เตรียมไว้ก็ได้ หลังปลูกแล้ว  1- 2 สัปดาห์ควรดูแลกำจัดวัชพืชให้ดีเพื่อให้ได้ผลผลิตจากหญ้ารูซี่ในจำนวนมาก โดยสัตว์ที่นิยมให้รูซี่ก็มักจะเป็นสัตว์ที่สามารถเลี้ยงแบบปล่อยออกมาที่ลานกว้างได้ เช่น วัว ควาย แพะ เป็นต้น

  1. หญ้ากินนี่สีม่วง อีกหนึ่งสายพันธุ์หญ้าทางเลือกที่นิยมปลูกเพื่อใช้คลุมรักษาหน้าดินและใช้เป็นอาหารให้สัตว์ มีข้อดีคือสามารถทนความแล้งได้ดี มีต้นขนาดใหญ่ ใบไม่แข็งเหมาะสำหรับให้สัตว์กิน แตกกอง่ายทำให้ขยายพันธ์ง่าย โตไว ทนต่อการเผาไหม้ และเหยียบจากคนและสัตว์ได้ดี มีคุณค่าทางอาหารสูง อีกทั้งยังได้ผลผลิตจำนวนมากต่อการปลูก 1 ไร่ ทั้งนี้พืชชนิดนี้นอกจากจะมีประโยชน์ในการเป็นอาหารสัตว์เพื่อช่วยลดต้นทุนแล้ว

ยังสามารถนำไปผลิตพลังงานเชื้อเพลิงได้อีกด้วย ส่งผลให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ตลอดทั้งปี สามารขยายพันธุ์จากการแตกกอและปลูกด้วยเมล็ด พืชชนิดนี้เจริญเติบโตได้ในทุกสภาพพื้นที่ ทุกสภาพดิน แต่จะเจริญเติบโตได้ดีเป็นพิเศษในพื้นที่ ที่มีปริมาณน้ำฝนเพียงพอต่อปี ผลผลิตใน 1 สามารถสามารถเก็บเกี่ยวได้ถึง 2.5 – 3 ตันต่อ 1 ปี โดยการปลูกหนึ่งรอบสามารถใช้ประโยชน์ต่อไปได้อีก อย่างต่ำ 3 ปีทีเดียว ทั้งนี้หลังปลูก ในช่วง 2- 3 สัปดาห์แรกควรดูแลเรื่องวัชพืชให้ดี หญ้าชนิดนี้ก็เหมาะกับสัตว์ที่ชอบแทะเล็ม อาทิ ม้า วัว ควาย และแพะ เป็นต้น

 

 

จากหญ้าทั้ง 3 ชนิดที่กล่าวถึงไปก่อนหน้านี้จะเห็นได้ว่า มีข้อดีคือสารอาหารมากกว่าหญ้าที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ อีกทั้งยังสามารถเลือกปลูกได้ตามสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศ นอกจากนี้ยังมีผลผลิตที่เป็นจำนวนมาก สามารถลดต้นทุนค่าอาหารสำหรับการเลี้ยงสัตว์ ไปได้มาก อีหนึ่งยังสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยาวนานต่อการปลูกเพียง 1 ครั้ง ทั้งนี้จึงถือได้ว่าหญ้าทางเลือก สายพันธุ์เหล่านี้ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีสำหรับเกษตรที่ต้องการลดต้นทุนการเลี้ยงสัตว์ ตลอดจน หญ้าบางสายพันธุ์ก็สามารถตัดออกขายสร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรอีกด้วย

 

 

 

 

Recommended Articles