ทำความรู้จักกับดอกทานตะวันแคระ และ ประโยชน์ที่ควรรู้
ทำความรู้จักกับดอกทานตะวันแคระ และ ประโยชน์ที่ควรรู้ ทานตะวันแคระ คือ ดอกไม้สายพันธุ์เดียวและวงเดียวกับดอกทานตะวันทั่วไป เพียงแต่ถูกตัดต่อและปรับแต่งพันธุกรรมให้มีขนาดที่เล็กลงมา มีชื่ออื่นๆที่เรียกว่า Sunny Smile Sunflower หรือ Dwarf Sunflower และมีถิ่นกำเนิดอยู่ในพื้นที่ของทวีปอเมริกาเหนือ ความสูงของลำต้นจะอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 12 ถึง 15 นิ้ว ทั้งให้เหมาะแก่การปลูกในกระถาง และภายในพื้นที่ที่จำกัดได้ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ห้องเช่า และคอนโด เป็นต้น ตัวดอกจะที่มีขนาดใหญ่กว่าลำต้น มีลักษณะเป็นสีเหลืองทองเช่นเดียวกันกับดอกทานตะวันสายพันธุ์ทั่วไป เกสรจะเป็นลักษณะริ้วสีน้ำตาลเข้ม ทั้งนี้ สำหรับใครที่สงสัยว่าดอกทานตะวันแคระ ปลูกในพื้นที่แบบไหน ในความเป็นจริงแล้วดอกไม้ชนิดนี้ สามารถเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่มีแสงแดดจัด ทำให้เหมาะแก่การปลูกในทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย เลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงแล้ว ดอกไม้สายพันธุ์ในวงเดียวกับทานตะวันนั้น มีอยู่มากมายกว่า 70 ชนิดเลยทีเดียว แต่หนึ่งในสายพันธุ์ที่กำลังได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบันนั่นก็คือ ดอกทานตะวันแคระที่กำลังจะกล่าวถึงอยู่นั่นเอง
ขั้นตอนและวิธีการ สำหรับการเพาะปลูกทานตะวันแคระจากเมล็ด
ทานตะวันแคระสามารถ ขยายพันธุ์ได้ง่ายๆ ด้วยการเพาะเมล็ด ซึ่งมีกระบวนการทำและขั้น เพียงแค่ลดน้ำ ในปริมาณที่พอดีเหมาะสม และเพาะปลูกในพื้นที่ที่มีแสงแดดรำไร เมล็ดของทานตะวันแคระ ก็จะสามารถงอกต้นอ่อน ออกมา และสามารถ แยกไปปลูกในภาชนะที่ต้องการ เพื่อให้เจริญเติบโตได้ต่อไป นอกจากนี้ทานตะวันแคะ เป็นสายพันธุ์ทานตะวันที่สามารถให้ผลผลิตในเรื่องของดอกได้ไวกว่าดอกทานตะวันสายพันธุ์ขนาดใหญ่อีกด้วย ทั้งนี้ สำหรับ ผู้อ่านคนใดที่กำลังมองหาวิธีการปลูกดอกทานตะวันแคระอยู่นั้น ในวันนี้เรามีขั้นตอนง่ายๆที่สามารถทำได้ด้วยตนเองมาฝากกัน โดยขั้นตอนและวิธีการปลูกทานตะวันแคระ นั้นมีดังนี้
อุปกรณ์ปลูกทานตะวันแคระ
- ถาดหรือภาชนะสำหรับเพาะเมล็ด
- พีทมอส หรือดิน
- เมล็ดทานตะวันสำหรับเพาะ
- ฟ๊อกกี้สำหรับรดน้ำ
- ปุ๋ยสำหรับบำรุง
- น้ำยาป้องกันเชื้อรา
- ถุงมือ
ขั้นตอนและวิธีการเพาะปลูกทานตะวันแคระด้วยเมล็ด
- สวมใส่ถุงมือให้เรียบร้อยก่อนจะ นำสารเคมีสำหรับป้องกันเชื้อราผสมกับน้ำในอัตรา 4 cc ต่อน้ำ 1 ลิตร
- เมื่อได้น้ำที่ผสมกับสารป้องกันเชื้อราเรียบร้อยแล้วให้นำมาค่อยๆเทผสมกับพีทมอสหรือดินสำหรับการเพาะปลูก
- นำพีทมอสหรือดินที่ผสมกับสารเคมีเรียบร้อยแล้วใส่ลงในภาชนะหรือถาดสำหรับการเพาะปลูก
- หยอดเมล็ดทานตะวันลงในหลุม โดยจะให้มีความลึกแบบพอดี ประมาณ 0.5 ถึง 2 เซนติเมตร ก่อนจะกลบด้วยดินหรือพีทมอสบริเวณปากหลุมบางๆ ก่อนจะรดน้ำที่ผสมสารเคมีป้องกันเชื้อราลงไปอีกที
- จัดวางภาชนะสำหรับการเพาะปลูกให้อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับแสงรำไรประมาณ 10% โดยในระหว่างนั้นจะต้องรักษาอุณหภูมิและความชื้นภายในดินให้ดีด้วยการรดน้ำอย่างสม่ำเสมอเพียงแต่จะต้องระวังไม่ให้ดินมีความโชคน้ำจนเกินไป เพราะอาจทำให้เมล็ดทานตะวันแคระภายในดินเน่าเสียได้
- ปล่อยทิ้งไว้หลังจากระยะเวลา 1 เดือน เมื่อต้นอ่อนเริ่มงอกขึ้นมาแล้ว จึงสามารถนำแยกออกไปเพาะปลูกลงในภาชนะจริงที่ต้องการได้
วิธีการดูแลรักษาดอกทานตะวันแคระ
ในส่วนของขั้นตอนและวิธีการดูทานตะวันแคระในระหว่างการเพาะปลูกเพื่อให้เจริญเติบโตได้ดีนั้น มีการแบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 ระยะด้วยกันดังนี้
- ระยะที่ 1
เมื่อต้นกล้าเริ่มงอกขึ้นมา จันทรุปพื้นดิน ให้ทำการรดน้ำให้ชุ่ม ก่อนจะขยับพื้นที่สำหรับการจัดวางภาชนะเพาะปลูกให้ได้รับแสงเพิ่มขึ้นประมาณ 50%
- ระยะที่ 2
เมื่อต้นอ่อนเริ่มมีใบเลี้ยงงอกออกมา ให้จัดการขยะพื้นที่สำหรับการจัดวางภาชนะให้ได้รับแบบเพิ่มขึ้นอีก และยังคงจะต้องรักษาความชื้นของดินเอาไว้อย่างสม่ำเสมอ
- ระยะที่ 3
เมื่อใบจริงเริ่มแผ่ขยายออกมา อยากลำต้น จึงจะเริ่มนำปุ๋ยเคมี สูตร 15-0-0 หรือ 20-20-20 มาใส่เพื่อเสริมการเจริญเติบโตได้ โดยปริมาณที่ใช้ไม่ควรเกิน 3 กรัม/ น้ำ 10 ลิตร เว้นช่วงการให้ปุ๋ยเป็นระยะเวลาทุกๆ 2-3 วัน
- ระยะที่ 4
เมื่อ ใบจริงของลำต้นเริ่มงอกออกมาจนครบ 2 คู่ ให้ทำการเพิ่มปุ๋ยจาก 3 กรัมเป็น 6 กรัม/น้ำ 10 ลิตร
และเมื่อทำการดู จน ต้นอ่อนสามารถเจริญเติบโตจนแยกลงไปเพาะปลูกในภาชนะตามที่ต้องการได้แล้ว ระยะเวลาอีกประมาณ 1 เดือนถึง 1 เดือนครึ่ง ก็จะพบว่า ทานตะวันแคระ ออกดอกให้เห็นได้อย่างแน่นอน ซึ่งในระยะของการออกดอกนี้ ควรจัดวางกระถางหรือภาชนะสำหรับปลูกให้โดนแดดอย่างเต็มที่และหมั่นดูแลเรื่องแมลงและศัตรูพืชที่จะมากัดกินให้ดี