ทานตะวันกับวิธีเพาะง่ายๆทำได้ด้วยตัวเอง
ทานตะวัน จัดเป็นอีกหนึ่งพืชเศรษฐกิจทางเลือกใหม่ สำหรับเกษตรกรผู้ที่ต้องการเพาะปลูก หรือคนอื่นๆ ที่กำลังมองหาแนวทางเลือกใหม่ๆ สำหรับการเริ่มต้นเพื่อเข้าสู่แวดวงอาชีพการทำเกษตรกรรม เนื่องจากพืชชนิดนี้สามารถเปิดตลาดใหม่ ๆ เพิ่มทางเลือกและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้เสมอมา ปัจจุบันมีความต้องการของตลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งนี้เนื่องจากว่าทานตะวันนั้นสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตนำมาออกขายได้อย่างหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นต้นอ่อนทานตะวัน, เมล็ดทานตะวัน, หรือแม้กระทั่งดอกทานตะวันก็สามารถนำไปขายเป็นดอกไม้ประเภทสวยงามหรือไม้ประดับได้เช่นกัน และด้วยเหตุเหล่านี้ ทำให้ในปัจจุบันผลผลิตที่ได้จากทานตะวันนั้น มีแนวโน้มความต้องการของผู้บริโภคในตลาดกลุ่มใหม่มากขึ้นเรื่อย ๆ จัดเป็นพืชทางเลือกอีกหนึ่งอย่างที่น่าสนใจและมีอัตราที่ให้จะผลตอบรับสูง สามารถสร้างรายได้ที่ดีให้กับกลุ่มเกษตรกรที่สนใจหันมาเพาะปลูกพืชชนิดนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว
ทานตะวันสามารถปลูกและขยายพันธุ์ได้ผลดีที่สุดจากการเพาะเมล็ดและสำหรับผู้ที่สนในการการเพาะเมล็ดทานตะวันนั้น ในเบื้องต้นควรเตรียมตัวและมีข้อมูลที่ควรรู้ดังนี้
อุปกรณ์ปลูกทานตะวัน
– ถาดเพาะ
– ภาชนำสำหรับใส่น้ำได้
– กล่องมีผาปิด และกระดาษทิชชูใช้ในกรณีปลูกเพื่อเอาต้นกล้า
– น้ำอุ่น
– ผ้าขนหนู ใช้กรณีเอาต้นอ่อน
– ดินผสม
– ปุ๋ยและแร่ธาตุต่าง ๆ
ขั้นตอนการเพาะเมล็ดทานตะวัน
- เตรียมเมล็ดทานตะวันด้วยการนำไปตากแดด 1 วัน
- นำเมล็ดที่ได้มาแช่น้ำอุ่นไว้ประมาณ 2- 4 ชั่วโมง เพื่อเร่งปฏิกิริยาการงานของเมล็ดให้มากขึ้น
- ในกรณีเพาะเมล็ดเพื่อใช้ต้นอ่อน ให้นำเมล็ดไปห่อผ้าเก็บทิ้งไว้ ใช้เวลาประมาณ 12 – 20 ชั่วโมง ระหว่างนั้นคอยเปิดดูหมั่นคนไปมาจนครบประมาณ 20 ชั่วโมง
- ในกรณีปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับ นำเมล็ดไปใส่กล่องหรือภาชนะที่มีฝาปิดสนิท รองด้านในด้วยกระดาษทิชชู ใส่เมล็ดทานตะวันลงไปและพรมน้ำจากนั้นนำไปแช่ตู้เย็นในช่องธรรมดา 1 คืน เมื่อครบเวลาแล้วนำภาชนะออกมาวางในอุณภูมิห้องธรรมดาโดยยังไม่ต้องเปิดฝา
- เตรียมดินใส่ลงในภาดเพาะ หรือภาชนะปลูกอื่นๆที่ต้องการ
- ในกรณีเพาะเพื่อใช้ต้นอ่อน สามามารถโรยเมล็ดทานลงไปให้อยู่รวมกันในถาดเพาะได้เลย โดยไม่ต้องแยกช่องละ 1 เมล็ด
- ในกรณีเพาะเพื่อปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับ ควรนำเมล็ดลงดินในถาดเพาะแบบแยกช่อง หนึ่งเมล็ดต่อหนึ่งช่อง เพื่อให้ต้นกล้าได้เจริญเติบโต
- กลบดินและรดน้ำให้ชุ่ม ทุกวัน สถานที่เก็บถาดเพาะ ควรเป็นที่ร่ม ยังไม่ควรเจอแดดที่แรงเกินไปนัก
- เมื่ออายุประมาณ 5 – 7 สามารเก็บผลผลิตที่เป็นต้นอ่อนได้ แต่หากต้องการได้ต้นกล้าเพื่อนำไปปลูกต่อไป ควรรอให้ได้ระยะ ที่ต้องการหรือต้นกล้าเริ่มแข็ง ก็ย้ายนำไปลงปลูกในภาชนะหรือพื้นที่ที่ต้องการเพื่อให้เจริญเติบโตต่อไป ทั้งนี้ควรทำในช่วงเย็นที่เพื่อไม่ให้ต้นกล้าสูญเสียน้ำจนอ่อนแอน และสามารถยืนต้นได้ดีหลังย้ายมาปลูกลงในแปรง
ในส่วนของขั้นตอนการดูแลนั้น ช่วงเพาะควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอจนกว่าจะได้อายุตามต้องการดินที่เหมาะสมควรมีลักษณะร่วนซุย ไม่อุ้มน้ำ ระบายสิ่งต่างๆได้ดี ปุ้ยเคมีสูตรที่นิยมใช้คือ 15 -15 – 15 และ 20 – 20 – 20 ระหว่างการดูและควรหมั่นเสริมแร่ธาตุต่างๆ ให้เพียงพอและเหมาะสมอยู่เสมอ เมื่อเจริญเติบโตสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ทั้งการขายดอกรวมไปถึงปล่อยให้ดอกแก่จนสามารถเก็บเมล็ดมาแปรรูปเป็นหารต่างๆขาย หรือจะเก็บเมล็ดไว้เพื่อนำไปเพาะปลูกในรุ่นต่อๆไปก็ได้เช่นกัน การเพาะเมล็ดทานตะวันนั้นเริ่มทำได้จากในพื้นที่เล็กๆ เป็นได้ทั้งการปลูกเพื่อความสวยงามและการสร้างอาหารได้เองแบบปลอดภัย 100% นอกจากนี้ในการปลูกเพื่อเอาต้นอ่อนนั้นยังสามารช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับการซื้ออาหารในบางมื้อให้กับผู้ที่เพาะปลูกได้อีกด้วย จัดว่าทานตะวันนั้นเป็นอีกหนึ่งชนิดของพืชที่มีคุณสมบัติสารพัดประโยชน์เลยทีเดียว