ข้อควรรู้ก่อนเริ่มเลี้ยงวัว เพื่อขายลูก
การเลี้ยงวัวขายลูกนั้น เป็นอีกหนึ่งช่องทางการสร้างรายได้สำหรับกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงวัว ที่มีวัวเป็นจำนวนมากหรือเพียงพอต่อความต้องการแล้วทั้งนี้นอกจากจะเป็นการเพิ่มแนวทางการสร้างรายได้แล้ว การเลี้ยงวัวขายลูกนั้นยังเป็นการลดปัญหาเรื่องของปริมาณวัวที่มากเกินความต้องการ หรือเลี้ยงไม่ไหวอีกด้วย อย่างไรก็ตามประการเลี้ยงเพื่อขายลูกนั้น ปัจจุบันนิยมทำด้วย 2 วัตถุประสงค์ด้วยกัน ดังนี้
การเลี้ยงวัวขายลูกเพื่อนำไปขุนต่อ
การขายวัวในประเภทนี้ อาจจะต้องขายในราคาที่ไม่สูงมากนัก แต่สามารถขายได้ในปริมาณมาก และไม่จำเป็นต้องใช้วัวลักษณะสวยงามเท่าไร เพียงแต่เลือกสายพันธุ์ที่เลี้ยงง่าย โตไว และน้ำหนักดี ในการขายลูกวัวเพื่อนำไปขุนนั้นสามารถเริ่มขายได้ตั้งแต่ 5 – 16 เดือน เนื่องจากลูกวัวในช่วงวัยนี้จะมีอัตราการเจริญเติบโดดีที่สุด และสำหรับการขายลูกวัวขุนนั้นจะใช้วัวตัวผู้ทั้งหมดเนื่องจากมีขนาดใหญ่ได้น้ำหนักและเนื้อจากซากดีกว่า อีกทั้งวัวตัวเมียยังสามารถขายเพื่อเป็นแม่พันธุ์ในราคาที่สูงกว่าได้นั่นเอง โดยปัจจุบันสายพันธุ์ลูกวัวที่ขายเพื่อนำไปขุนนั้น จะเน้นไปที่ลูกผสมชาร์โลเลส์ เนื่องจากโครงใหญ่และน้ำหนักขึ้นง่าย นอกจากนี้ ยังมีสายพันธุ์บราห์มันทั้งแบบลูกผสมและเลือด100, พันธุ์ผสมอินดูบราซิล, พันธุ์พื้นเมืองและลูกวัวเพศผู้ ที่สามารถขายเป็นวัวขุนได้เช่นเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตาม เกษตรที่เคยเลี้ยงวัวประเภทนี้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่าหากในช่วงอายุ 5 – 16 เดือนยังไม่สามารถขายออกได้ ให้นำไปขุนต่อจนมีนำหนักประอยู่ที่ 400 – 500 กิโลกรัมแล้วจึงค่อยนำออกมาขายอีกที ก็จะง่ายออกได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
การเลี้ยงวัวเพื่อขายลูกพันธุ์
การขายประเภทนี้ นิยมเลือกวัวที่มีลักษณะดี สวยงาม ขายในราคาที่สูงกว่าวัวสำหรับขุน เพื่อจะนำไปเลี้ยงและใช้เป็นพ่อแม่พันธ์ต่อไปในอนาคต โดยการเลี้ยงวัวขายลูกพันธุ์นั่น สามารถขายได้ทั้งเพศผู้และเพศเมีย แต่ในตลาดบ้านเรานั้นจะนิยมซื้อขายเพศเมียมากกว่า เนื่องจากวัวพ่อพันธุ์ที่ดี สามารถติดต่อผสมเทียมได้จากฟาร์มชั้นนำหรือหน่วยงานของรัฐนั่นเอง ในส่วนของลักษณะสายพันธุ์นั้นปัจจุบันที่นิยมซื้อขายกันมากในประเทศ คือลูกผสมชาร์โรเล่ส์ และอเมริกันบราห์มัน เนื่องจาก โหนกใหญ่สีสวย รูปร่างโครงสร้างใหญ่ แข็งแรงโตไวเลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพอากาศและโรคต่างๆได้เป็นอย่างดี โดยลูกวัวพันธุ์นั้นสามารถขายได้ตั้งแต่อายุ 5 เดือนไปมากกว่า 1 ปีเลยทีเดียวสำหรับลูกวัวตัวเมียที่จะขายเป็นแม่พันธุ์ควรมีลักษณะที่ดีดังต่อไปนี้
– นิสัยดี เชื่องกับคน
– ยืนสวย
– บั้นท้ายใหญ่
– หลังมีกล้ามเนื้อและกว้าง
– เจริญเติบโตง่าย
– กินอาหารได้ดี
– ไม่เป็นสายเลือดชิด
– หน้าตาแจ่มใส
สำหรับลูกวัวตัวผู้ที่จะขายไปเป็นพ่อพันธุ์ควรมี
ลักษณะดังนี้
– สายเลือดจากพ่อพันธุ์ดี
– เจริญเติบโตอย่างสม่ำเสมอ
– โครงสวยงามร่างใหญ่
– สีสวย
– มีกล้ามเนื้อ คอหนา ไหล่และสะโพกกว้าง
– ขาและกลีบเท้าไม่ผิดรูป ความห่างของขาได้ระยะพอดีตัว
– สัดส่วนบนใบหน้าไม่ผิดเพี้ยน ได้รูป
– ไม่มีประวัติเป็นโรคจากพ่อแม่พันธุ์
ทั้งนี้หมดนี้เป็นเพียงข้อมูลพื้นฐานเท่านั้นหากเกษตรกรที่ต้องการเริ่มเลี้ยงวัวขายลูกนั้น ควรเริ่มจากการหาซื้อพ่อแม่พันธุ์ที่มีลักษณะดีมาก่อน หรืออาจจะเริ่มต้นจากการซื้อลูกวัวพันธุ์มาเลี้ยงเองก็ได้เช่นกัน ทั้งนี้หากเป็นมือใหม่ควรศึกษาข้อมูลเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย และขอคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์มาก่อน ก็จะช่วยให้ได้ วัวพ่อแม่พันธุ์มาใช้สำหรับเริ่มต้นการเลี้ยงเพื่อขายลูกได้ นอกจากนี้การจะเลี้ยงเพื่อขายลูกนั้นผู้เลี้ยงควรศึกษาข้อดีข้อเสียเพื่อใช้เปรียบเทียบรวมทั้งวัตถุประสงค์ในการเลี้ยงของแต่ละสายพันธุ์ เพื่อให้ได้วัวลักษณะดี เหมาะสมกับความต้องการของผู้เลี้ยงและกลไกลทางการตลาด และสามารถเป็นพ่อแม่พันธุ์ที่ดีจนเกิดออกมาเป็นลูก ที่ต้องการของท้องตลาดนั่นเอง