การขยายพันธุ์พืชด้วยการเพาะเมล็ด
ในการทำอาชีพเกษตรกรนั้น สิ่งหนึ่งที่ผู้เลือกอาชีพนี้จำเป็นต้องมีความรู้ตวามเข้าใจเป็นอย่างดีนั่นก็คือวิธีที่จะการเลือกใช้สำหรับการขยายพันธุ์ของพืชต่างๆ นั่นเอง ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดต้นทุนสำหรับการหาต้นกล้าใหม่ รวมไปถึงเกิดรายได้จากการเพาะขายต้นกล้าเหล่านี้อีกด้วย อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ สามารถหาเป็นความรู้ได้ทั้งจากการศึกษาด้วยตนเอง การปรึกษาผู้มีประสบการณ์ รวมไปถึงการสั่งสมประสบการณ์ต่างๆทั้งหมดที่ได้ทำมาจนเกิดเป็นแนวทางเฉพาะตัวก็สามารถทำได้เช่นกัน ทั้งนี้การขยายพันธุ์พืชสามารถแบ่งออกได้เป็น สองประเภทด้วยกันคือ
- การขยายพันธุ์แบบอาศัยเพศ
- การขยายพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ
อย่างไรก็ตาม สองแบบนี้ มีข้อดีและข้อเสียแต่งต่างกันออกไป แต่สำหรับเกษตรกรที่กำลังมองหาวิธีการได้มาของต้นกล้าใหม่ ที่จะมีความแข็งแรงทนทานในระดับสูงนั้นล่ะก็ การเลือกวิธีขยายพันธุ์พืชแบบอาศัยเพศ ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดนั้นแม้จะต้องใช้เวลาในการดูแลอยู่บ้าง แต่ก็ถือจะได้ว่าตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ได้ดีทีเดียว
การเพาะเมล็ด คือ วิธีการที่จะใช้ขยายพันธุ์หรือเพิ่มจำนวนพืชที่มีอยู่แบบอาศัยเพศของพืช นั่นก็คือต้องมีการผสมพันธุ์กันของเกสรดอกตัวผู้และตัวเมีย จนเกิดการพัฒนาขึ้นมาจนกลายเป็นเมล็ดให้ได้นำมาใช้ขยายพันธุ์ต่อไปนั่นเอง จัดดเป็นวิธีการที่ง่าย และได้ผลลัพธ์ที่ดีมากที่สุด อัตราความเสี่ยงในการล้มเหลวกว่าวิธีการขยายพันธุ์พืชแบบอื่นๆ สามารถทำได้กับพืชทุกชนิดที่มีเมล็ด ทั้งพืชที่ให้ผลผลิตหนึ่งฤดูและสองฤดู นอกจากนี้ยังรวมไปถึงพืชที่ให้ผลผลิตหลายฤดูในบางชนิดอีกด้วย
โดยทั่วไปแล้วการขายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดนั้น สามารถนำมาใช้กับการเกษตรได้อย่างหลากหลายประเภท เช่น
– การเพาะปลูกพืชไร่ และกลุ่มธัญพืชเพื่อเก็บเกี่ยวผลผลิต
– การใช้เพิ่มจำนวนพืชในป่า
– ใช้เป็นฐานสำหรับการขยายพันธุ์พืชด้วยวิธีอื่นๆ เนื่องจากการเพาะเมล็ดจะทำให้พืชมีนากแก้ว แต่การขยายพันธุ์วิธีอื่นๆไม่มี
– การปลูกกลุ่มไม้ดอก รวมไปถึงพืชผักต่างๆเพื่อต้องการผลผลิต
– การเพาะปลูกเพื่อวิจัยหรือพัฒนาสายพันธุ์พืช
นอกจากนี้การเพาะเมล็ดยังสามารถแยกออกได้เป็นรูปแบบย่อย อีกสามรูปแบบดังนี้
- การเพาะเมล็ดลงแปลงหรือภาชนะสำหรับการเพาะที่เตรียมไว้
- การเพาะเมล็ดลงในพื้นที่ทำการเกษตรโดยตรง
- การเพาะแบบแยกหนึ่งภาชนะต่อหนึ่งเมล็ด
ขั้นตอนการเพาะเมล็ด
- เตรียมเมล็ดที่จะใช้ในการเพาะพันธุ์ ควรใช้เมล็ดแก่ ไม่มีโรคหรือเชื้อรา รวมถึงตรวจเช็คดูว่าไม่เป็นเมล็ดฝ่ออีกด้วย
- นำเมล็ดที่ได้ ไปแช่ในน้ำยากำจัดเชื้อราและนำยากันแมลง เนื่องจากอาจจะมีสัตว์ที่หากินใต้ดินบางชนิดมสกัดกินเมล็ดที่เพาะไว้ให้เสียหายได้
- อาจทดสอบเมล็ดด้วยการวางลงบนภาชนะที่มีกระดาษทิชชูซับน้ำอยู่ แล้วเก็บไว้ในพื้นที่ที่สามารถควบคุมอุณหภูมิต่างๆ ได้เพื่อรอดูอัตตาการงอกของเมล็ดเหล่านี้
- จากนั้นนำเมล็ดทั้งหมด มาเตรียมลงเพาะ ลงดินทั้งนี้สามารถเลือกทั้งสองแบบดังนี้
– เพาะในภาชนะ
– เพาะลงในแปลงพื้นที่เกษตรเลย
โดยขั้นตอนนี้ควรมีการเตรียมดินให้มีความพร้อมสำหรับการเจริญเติบโตของพืชเสียก่อน โดยสูตรการผสมหรือปรับหน้าดินนั้น สามารถศึกษาได้ความเหมาะสมหรือควาทต้องการของตัวผู้เพาะปลูกเอง
- ดูแลรดน้ำ ใส่ปุ๋ยให้ดี โดยเฉพาะช่วง 7-10 วันแรกจากนั่น ค่อยลดปริมาณมาณ
- เมือเมล็ดงอกจนโตได้ขนาดต้นกล้าตามที่ต้องการหรือต้นกล้าดูมีความแข็งแรงดีแล้ว กรณีที่เพาะในภาชนะหรือเพาะเพื่อขายพันธุ์ต้นกล้า ก็ย้ายต้นเหล่านี้ไปใส่ในภาชนะที่ต้องได้ เพื่อเตรียมนำออกขายหรือนำไปใช้ในขั้นตอนต่อไป
อย่างไรก็ตามนั้นการเพาะพันธุ์ต้นกล้าหรือขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดนั้น มีปัจจัยอื่นๆเข้ามาเสริมอีกมากมาย ทั้งสภาพแวดล้อม อากาศ อุณหภูมิ รวมไปถึงดินและปุ๋ยต่างๆที่ต้องใช้ สำหรับผู้ที่สนใจจะลงมือปฏิบัติควรศึกษาทำความเข้าใจกระบวนการทั้งหมดให้ดีเสียก่อนจึงค่อยเริ่มลงมือทำ ทั้งนี้ก็เพื่อให้การเพาะเมล็ดนั้น ประสบความสำเร็จ ได้พันธุ์ต้นกล้าที่ดีมีคุณภาพ เกิดเป็นผลลัพธ์ที่จะทำให้ทั้งทุนและแรงทั้งหมดที่ได้ลงไปไม่เป็นการเสียเปล่านั้นเอง