การกำจัดวัชพืชถาวร
วัชพืชเป็นสิ่งที่น่ารำคาญใจสำหรับบุคคลที่จะปลูกพืช ผัก เพื่อการค้าขายหรือการอุปโภคบริโภค เนื่องจากเจ้าวัชพืชเหล่านี้เองจะทำการแย่งสารอาหารที่มีประโยชน์ ซึ่งเมื่อปล่อยระยะเวลานานวันเข้าวัชพืชเหล่านี้จะทำให้เหล่าต้นไม้ที่แสนรักของเราตายหมด วันนี้เราจึงมีวิธีการกำจัดวัชพืชถาวร 8 วิธีด้วยกัน ดังนี้ครับ
วิธีการควบคุมและป้องกันกำจัดวัชพืช
- ถอนออกด้วยมือ
การถอนหญ้าด้วยมือเปล่า เป็นวิธีการที่ง่ายที่สุดในการกำจัดพืชอย่างถาวรได้ เพียงแต่เราจะต้องมีวิธีการถอนที่สามารถทำให้รากของวัชพืชออกจนหมด วิธีการที่สามารถถอนออกได้จากหน้าดินนั้นเราจะไปปรับเปลี่ยนที่ตัวของดินให้มีความนุ่มนิ่มขึ้น โดยการรดน้ำหรือสามารถทำได้ตอนหลังฝนตก ซึ่งกรณีหลังจะประหยัดค่าใช้จ่ายเรื่องค่าน้ำลงไปได้อีก
- ปิดกั้นแสงแดด
แสงแดดเป็นสิ่งสำคัญในการที่ทำให้พืชหรือวัชพืชนั้นสามารถเจริญเติบโต เนื่องจากในหลักการทางวิทยาศาสตร์พืชต้องใช้แสงแดดในการหายใจหรือสังเคราะห์แสง ดังนั้นเมื่อเราปิดกั้นแสงแดดโดยการหาผ้าใบหรืออะไรก็ตามมากั้นแสงแดดเพื่อเป็นการสร้างการเจริญโตของวัชพืช แต่มีข้อเสียคือบริเวณนั้นจะต้องไม่มีพืชที่เราต้องการจะปลูกอยู่ร่วมกันกับวัชพืช
- กำจัดด้วยความเค็ม
การกำจัดวัชพืชด้วยความเค็มเป็นอีกหนึ่งวิธี โดยใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์เรื่องการแพร่และออสโมสิส โดยวัชพืชจัดเป็นพืชที่ใช้น้ำในการหล่อเลี้ยงการเจริญเติบโต ดังนั้นเมื่อน้ำที่ใช้ในการหล่อเลี้ยงเกิดการเจือปนเช่น เกลือ กลไกการรักษาระดับน้ำในพืชจะไม่สามารถดำเนินไปอย่างปกติ เพราะการแพร่ของสารละลายจะแพร่จากที่ที่มีความเข้มข้นมากไปสู่ที่มีความเข้มข้นน้อย ด้วยเหตุนี้วัชพืชจะสูญเสียน้ำทำให้ล้มตายลงไปในที่สุด
- ใช้เบกกิ้งโซดา
อาศัยกลไกการทำปฏิกิริยากันระหว่างเบกกิ้งโซดากับแร่ธาตุภายในดินทำให้ดินนั้นสูญเสียแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของวัชพืช เมื่อวัชพืชขาดสารอาหารไปหล่อเลี้ยงแล้ว ก็จะล้มตายไปในที่สุด
- สูตรน้ำส้มสายชูและเกลือ รวมพลังกำจัดวัชพืช
กำจัดวัชพืชอย่างถาวรด้วยการทำปฏิกิริยาระหว่างกรดอ่อนกับเบสแก่ที่ทำปฏิกิริยากันได้เกลือกับน้ำ ซึ่งหลักการกำจัดจะคล้ายกับข้อสาม เพียงแต่เพิ่มประสิทธิภาพด้วยกรดจากน้ำส้มสายชูเท่านั้นเองครับ
- ใช้อุณหภูมิที่ร้อนในการกำจัดวัชพืช
อุณหภูมิเป็นปัจจัยที่สำคัญเป็นอย่างมากในการเจริญเติบโตของพืช เมื่อเราต้มน้ำร้อนจัดหรือเหลือใช้จากการปรุงอาหารแล้ว ความร้อนจะไปทำลายชั้นคลอโรฟิลล์ที่สังเคราะห์แสงของวัชพืช เมื่อไม่มีแหล่งทำอาหารวัชพืชก็จะล้มตายไปในที่สุด